อีกปัจจัยที่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยบำรุงสมองคงหนีไม่พ้น "การกิน" เพราะอาหารที่ตัวเรากินเข้าไปจะมีส่วนเข้าไปช่วยในการทำงานของสมองไม่ว่าจะเป็น ช่วยบำรุง ช่วยกระตุ้น และที่สำคัญจะไม่มีอาการท้องร้องระหว่างท่องตำราอย่างแน่นอน
จากข้าวขาวธรรมดาที่กินอยู่ทุกวัน ลองเปลี่ยนมาเป็นข้าวกล้องในช่วงที่เพื่อน ๆ ต้องท่องตำราดูสะหน่อย เพราะในข้าวกล้องนั้นมี กาบ้า สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการทำงานของระบบประสาทและสมองช่วยให้สมองมีการจดจำได้ดียิ่งขึ้น ขณะเดียวกันในข้าวกล้องยังมีวิตามินบีที่สูงมาก ๆ ที่จะมาช่วยกระตุ้นระบบประสาทและสมองให้ตื่นตัว เพื่อรับเนื้อหาที่ตัวเรานั้นกำลังจะอ่าน
นอกเหนือจากจะเป็นกับแกล้มชั้นเลิศแล้ว พืชตระกูลถั่วยังอุดมไปด้วยคุณค่าต่อระบบประสาทและสมอง มีโปรตีนที่จะส่งให้ร่างกายมีพลังงานสามารถท่องตำราได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีโอเมก้า 3 ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง ยังไม่หมดในพืชตระกูลถั่วยังมีวิตามินอีอีกไม่น้อย ดังนั้นเพื่อน ๆ ที่อยู่ในโหมดจริงจังกับการอ่านหนังสืออย่าลืมหาถั่วไว้ใกล้ ๆ ตัวด้วยนะ
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ไม่สันทัดกับการกินถั่ว เมล็ดฟักทองก็เป็นอีกตัวเลือกที่ดีเลย เพราะในเมล็ดฟักทองมีธาตุอย่างสังกะสี ที่จะช่วยเสริมการทำงานของสมองในด้านการเรียนรู้และจดจำ บอกเลยว่าทั้งอิ่มท้องและบำรุงสมอง
คุณประโยชน์ที่สมองของเพื่อน ๆ จะได้จากการกินปลาทะเลเหล่านี้ก็คือกรดไขมันโอเมก้า 3 สารอาหารที่จะมาช่วยบำรุงประสาทและสมอง ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ นอกจากนั้นยังมี DHA ที่จะช่วยให้สมองนั้นมีการจดจำที่ดียิ่งขึ้น หากเพื่อน ๆ อยากให้ท่องตำราให้มีประสิทธิภาพก็อย่าลืมกินปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างปลาแมคลาเรน แหร่ ปลาแมคเคอเรล อีกชนิดที่อยากแนะนำ แต่ตกระหว่างนิดหนึ่งเพราะปลาชนิดนี้ขี้ตกใจมาก ๆ นั้นก็คือ ปลาสว๊าย
ในผักประเภทนี้จะอุดมไปด้วยวิตามินอีและโฟเลท ที่เป็นสารอาหารสำคัญต่อพัฒนาการของสมองและระบบประสาท สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ต้องโหมท่องตำราอย่างหนักอยากจะแนะนำเป็น บรอกโคลี เพราะนอกจากจะทำได้หลากเมนูแล้ว ในตัวของบรอกโคลียังเต็มไปด้วยวิตามินเคที่จะช่วยเพิ่มพลังให้กับสมอง อีกทั้งยังช่วยในการกระตุ้นการทำงานของสมองให้ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แอปเบิลเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เพราะอุดมไปด้วยสารสื่อประสาทที่เรียกว่า อะเซติลโคลีน (Acetylcholine) ที่มีส่วนช่วยให้เซลล์สมองตื่นตัวและเพิ่มทักษะการเรียนรู้และจดจำได้เป็นอย่างดี เพื่อน ๆ คนไหนไม่ได้เอนจอยกับการกินแอปเปิล ลองเปลี่ยนมาเป็นโยเกิร์ตดูก็ได้นะ เพราะนอกจากรสชาติที่อร่อยลิ้นและอิ่มท้องแล้ว โยเกิร์ตยังมีปริมาณโปรตันค่อนข้างสูง ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้สามารถกินไปพร้อม ๆ กับการท่องตำราได้เลยไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำหนัก
"ความเฉื่อยชาคือการบอกลา" คำนี้อาจจะเป็นจริงก็ได้ เพราะหากมีอาการเฉื่อยชาเพื่อน ๆ ก็จะพบเจอกับภาวะหนังตาหย่อนนั้นก็หมายความว่าจะต้องบอกลาการท่องตำราไปเข้าพบกับพระอินทร์สักพัก แต่หากเนื้อหาของการท่องตำรากำลังเข้มข้นและเพื่อน ๆ ก็ไม่อยากที่พลาดความต่อเนื่องไปแล้วล่ะก็ ดาร์กช็อกโกแลต (หรือช็อกโกแลตที่มีความเข้มข้น 70% ขึ้นไป)ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
เห็นงานเป็นลม เห็นนมสู้ตาย เพราะในนมมีโปรตีนและกรดอะมิโนที่สำคัญต่อระบบการทำงานของสมองอยู่เป็นจำนวนมาก นมจึงเป็นอาหารที่ดีในช่วงที่เพื่อน ๆ กำลังท่องตำรา ที่สำคัญควรจะเป็นนมแท้ 100% เพราะหากเป็นนมที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติจะมีน้ำตาลมากจนเกินความจำเป็น
ถึงจะไม่มีถั่ว หรือโยเกิร์ต หรือแอปเปิล วางข้างตัวในช่วงท่องตำรา แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ น้ำเปล่า เพราะร่างกายมีน้ำเป็นประกอบ โดยเฉพาะสมองที่มีอยู่ถึง 3 จาก 4 ส่วน ดังนั้นควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอยู่เสมอด้วย
ไหน ๆ ก็บำรุงสมองด้วยอาหารมาดีขนาดนี้แล้ว เพื่อน ๆ ก็อย่าลืมพักผ่อนอย่างน้อย 6 ชั่วโมงด้วยล่ะ เพื่อให้สมองตื่นตัวและพร้อมสำหรับการเตรียมตัวท่องตำราได้อย่างเต็มที่
ขอบคุณที่มาจาก https://bit.ly/3xaqn9Y