"อยากให้ลูกเก่งคณิตศาสตร์ทำอย่างไรดี"

สำหรับเด็กที่รักในวิชาคณิตศาสตร์คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองหรือคุณครูอาจจะไม่ต้องหากุศโลบายอะไรมากมายนักแค่สนับสนุนให้เด็กทำในสิ่งที่ชอบ แต่สำหรับเด็กที่มองวิชาคณิตศาสตร์เป็นเหมือนยาขมอาจจะต้องสรรหาวิธีการต่างๆ ให้เหมาะกับเด็กแต่ละคน

เพื่อให้เด็กเข้าใจ มั่นใจในตัวเองและมองว่าคณิตศาสตร์คือสิ่งที่อยู่รอบตัวเขา ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเรียนรู้ ขอเพียงค้นหาให้เจอว่าเด็กยังไม่เข้าใจตรงจุดไหน เราก็เข้าไปแก้ให้ตรงจุด อย่าให้ปัญหาเล็กน้อยสะสมจนกลายเป็นปัญหาใหญ่จนทำให้เด็กเกลียดและกลัววิชานี้ไปเลย

การปลูกฝังให้เด็กสนุกและอยากเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์นั้น ควรเริ่มตั้งแต่ช่วงที่เด็กยังอายุน้อย ก่อนวัยอนุบาลได้ยิ่งดี เพราะวัยนี้เป็นช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ สามารถฝึกให้เขารู้จักคิดวิเคราะห์อย่างมีตรรกะ จนนำไปสู่การหาวิธีแก้ปัญหา และสร้างรูปแบบการเรียนรู้เฉพาะตนได้ สร้างระเบียบวินัย ฝึกนิสัยขยันหมั่นเพียร พูดให้ง่ายก็คือ ถ้าอยากให้เด็กมี IQ EQ MQ หรืออีกหลายๆ Q ให้สูงขึ้นก็สร้างได้ในวัยนี้ โดยเราควรเริ่มตั้งแต่

1. เลือกสรรแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ให้มีความหลากหลายจากหนังสือหลายๆ เล่มใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอื่นๆ เพื่อให้เด็กสนุกและไม่เบื่อ อีกทั้งยังให้เด็กได้เรียนรู้ภาษาต่างประเทศเพิ่มขึ้นด้วย (ถ้าเป็นเล่มเวอร์ชันภาษาไทยแนะนำเป็นชุด "แบบฝึกคณิตศาสตร์ระดับ ป.1-ป.6" และชุด "ติวคณิตเพิ่มคะแนนระดับ ป.1-ป.6"

2. เมื่อได้แบบฝึกมาแล้วก็ต้องกำหนดกฏกติกาเพื่อสร้างความสม่ำเสมอหรือสร้างวินัยในการทำแบบฝึกให้ได้ทุกวัน ซึ่งในช่วงแรกเด็กอาจจะมีงอแงขอผ่อนปรนว่าวันนี้ไม่อยากทำ เราก็ต้องใช้วิธีโน้มน้าวใจหรือสร้างแรงจูงใจให้ได้ เพราะความสม่ำเสมอในการทำแบบฝึกทุกวันนี่แหละคือวิธีเพิ่มขีดความสามารถของเด็กให้สูงขึ้นเรื่อยๆ พอเด็กเริ่มมั่นใจ ไม่มีข้อสงสัยและสามารถทำโจทย์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ เด็กจะสนุกกับการเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดยที่ผู้ใหญ่ไม่ต้องบังคับ

3. ถ้าช่วงไหนเด็กรู้สึกเหนื่อยท้อแท้ เริ่มบ่นว่าเรียนยาก ไม่สนุก ไม่เข้าใจผู้ใหญ่ต้องรีบให้ความช่วยเหลือ สอบถามให้รู้ว่าเด็กติดขัดตรงเรื่องใด ไม่เข้าใจเนื้อหาส่วนไหนแล้วพยายามช่วยกันหาคำตอบ เพื่อให้เด็กรู้สึกว่าเค้าไม่ได้ถูกทอดทิ้งให้ต่อสู่กับความยากอยู่เพียงลำพัง

4. เมื่อเด็กทำได้ก็ต้องให้รางวัล อาจจะเป็นสิ่งของที่เด็กอย่างได้ หรือคำชมที่เหมาะสมและมาจากความจริงใจไม่ชมจนเกินความจริง

แค่ 4 ข้อที่กล่าวมานี้หากทำให้ได้ทุกวันสักประมาณ 1 เดือนเราจะมองเห็นพัฒนาการในตัวเด็กว่าเขาทำโจทย์ได้แม่นยำและถูกต้องมากขึ้น มีระเบียบวินัยมากขึ้น มีสมาธิและอารมณ์ที่มั่นคงมากขึ้น ลองดูค่ะ

เพราะต้นไม้ที่จะออกดอกผลให้เราเห็นในวันหน้า เราก็ต้องหมั่นเฝ้าดูแลรักษาเสียตั้งแต่วันนี้ มันอาจต้องใช้เวลา แต่สุดท้ายแล้วความคุ้มค่านั้นเกินบรรยายจริงๆ ค่ะ

ติดต่อสอบถามหนังสือได้ที่
Tel. : 0847003219
Line@ : @serazu
Website: www.serazu.com
E-mail : cc@serazu.com