การเล่น "จ๊ะเอ๋" เป็นอีกหนึ่งวิธีเล่นง่าย ๆ ที่สร้างรอยยิ้มของลูกได้มากมาย อีกทั้งยังเป็นการเล่นที่ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไร เพียงแค่มีเราและลูก ความสนุกสนานก็เกิดขึ้นได้ แล้วคุณพ่อคุณแม่ทราบกันไหมคะว่าการเล่น "จ๊ะเอ๋" นี้ยังส่งเสริมเสริมพัฒนาการของลูกน้อยได้เป็นอย่างดีอีกด้วย เรามาทำความรู้จักกับการเล่น "จ๊ะเอ๋" ให้มากขึ้นกันดีกว่าค่ะ ว่าดีอย่างไรและวิธีเล่นควรเล่นแบบไหน ไปดูกันเลย

นักวิจัยด้านสมองและพัฒนาการเผยว่า การเล่นปิดหน้าแล้วเปิดมา จ๊ะ-เอ๋! จะช่วยให้เด็กใน 2 ปีแรกได้เรียนรู้เรื่อง การคงอยู่ของสิ่งต่างๆ (Object permanence) เช่น เมื่อคุณแม่ปิดหน้าหรือไปแอบซ่อนตัว แล้วสักพักก็เปิดหน้าหรือโผล่มาจ๊ะเอ๋กับลูก รูปแบบการเล่นเช่นนี้จะทำให้ลูกค่อยๆ เรียนรู้ว่า แม่จะหายไปจากสายตาเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้นนะ แล้วเดี๋ยวแม่ก็จะกลับมาใหม่ .

จ๊ะเอ๋! ฝึกการจดจำข้อมูล สมองของเด็กเล็กๆ นั้นพร้อมจะเรียนรู้และเติบโตอยู่ตลอดเวลา และจะยิ่งพัฒนาได้ดีผ่านการเล่น ทุกช่วงเวลาที่พ่อแม่เล่นจ๊ะเอ๋กับลูกจะช่วยฝึกสมองของลูกด้านการจดจำ ความสนุกเกิดจากการจดจำว่าพ่อกับแม่เคยโผล่มาด้านไหน ตอนไหน และคาดเดาว่าครั้งต่อไปพ่อกับแม่จะโผล่ออกมาทางเดิมหรือเปล่านะ .

จ๊ะเอ๋! ฝึกให้รู้จักอดทนรอคอย เมื่อลูกค่อยๆ เรียนรู้ว่า พ่อแม่นั้นมีอยู่จริง พ่อแม่อาจหายไปจากสายตาบ้าง แต่เดี๋ยวก็จะกลับมาใหม่ ลูกจะเริ่มสร้างความเชื่อมั่นในตัวพ่อแม่ ขณะเดียวกันก็เริ่มเรียนรู้การอยู่ได้ด้วยตัวเอง (independence) การเล่นจ๊ะเอ๋จึงเป็นการกระตุ้นให้ฝึกอดทนรอคอย เริ่มจากช่วงเวลาที่แม่ปิดหน้าหรือซ่อนหลังผ้า เด็กก็ต้องรอว่า เมื่อไรแม่จะเปิดหรือโผล่มา ซึ่งพัฒนาไปสู่การอดทนรอคอยในเรื่องอื่นๆ ที่มีความยากและซับซ้อนขึ้นตามมา เช่น แม่ไปเข้าห้องน้ำ ไปทำกับข้าว หรือออกไปทำงานนอกบ้าน

จ๊ะเอ๋! ช่วยพัฒนาด้านการสื่อสาร ทุกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของลูกไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เกิดขึ้นชั่วคราวและผ่านไปโดยไม่มีความหมาย แต่แสดงถึงพัฒนาการของเด็กด้านการสื่อสารของลูก สำหรับเด็กเล็กในช่วง 1-2 ปีแรกการสื่อสารกับโลกภายนอกจะถูกถ่ายทอดผ่านการยิ้ม หัวเราะ ร้องไห้ มองตา หรือแม้แต่การขยับมือไม้แขนขา เช่นเดียวกับปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นขณะที่ลูกเล่นจ๊ะเอ๋กับพ่อแม่ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าการสื่อสารระหว่างกันประสบผลสำเร็จนะ การเล่นจ๊ะเอ๋จึงเป็นการกระตุ้นพัฒนาการทางการสื่อสารของลูกได้อย่างดี .

จ๊ะเอ๋! สร้างสายสัมพันธ์ การเล่นจ๊ะเอ๋ คือช่วงเวลาที่มีลูกเป็นศูนย์กลาง เป็นการเล่นที่สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ครอบครัว ผ่านการสบตา ทำเสียงสูงเสียงต่ำให้เร้าใจ เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ช่วยถักทอสายสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวให้แน่นแฟ้น และจะประทับเป็นความผูกพันในหัวใจของลูกไปยาวนาน

วิธีการเล่นจ๊ะเอ๋ ต้องเล่นแบบไหนถึงจะได้ผล

การเล่นจ๊ะเอ๋กับลูกน้อย อาจต้องคำนึงถึงอายุของลูก และวิธีการเล่น ดังนี้เลยค่ะ

1. เล่นให้เหมาะกับอายุลูก คุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มเล่นจ๊ะเอ๋กับลูกน้อยเมื่อลูกอายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป เพราะเป็นวัยที่เริ่มรับรู้ว่าแม่มีอยู่จริง แต่อย่าตกใจไป หากลูกน้อยวัยนี้ยังไม่สนใจการเล่นของคุณ เพราะเด็กที่สามารถเล่นจ๊ะเอ๋ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่ออายุประมาณ 8 เดือน ซึ่งเป็นวัยที่รู้แล้วว่า วัตถุมีอยู่ หายไป แล้วกลับมาใหม่ได้นั่นเอง

2. ใช้เสียงสูง และเล่นถี่ๆ หากคุณพ่อคุณแม่เล่นจ๊ะเอ๋ด้วยเสียงสูง จะทำให้การเล่นจ๊ะเอ๋สนุกขึ้นสำหรับทารก และหากจ๊ะเอ๋ถี่ๆ เช่นจ๊ะเอ๋สามครั้งติดกัน ก็จะยิ่งทำให้ทารกสนุกมากขึ้นไปอีกค่ะ

3. โผล่หน้าอย่าให้ซ้ำทิศ ลองเล่นจ๊ะเอ๋โดยโผล่หน้าหลายทาง เช่น บางครั้งโผล่จากมือด้านขวา บางครั้งโผล่จากมือด้านซ้าย จะทำให้เด็กได้ลองคาดเดา และเพิ่มความสนุกมากขึ้นได้ หรืออาจจะนำหนังสือนิทาน หรือหนังสือการ์ตูนภาพมาปิดหน้าคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองแทนแล้วค่อย ๆ โผล่หน้ามาจาก ทางด้านซ้าย ด้านขวา ด้านบน หรือด้านล่าง ของเล่ม เพื่อเสริมพัฒนาการ การมองเห็นของลุกน้อยร่วมด้วย

ถึงแม้ว่าการเล่นจ๊ะเอ๋อาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่เสียเวลาไปบ้าง แต่เชื่อเถอะว่านี่เป็นการใช้เวลากับลูกน้อยที่คุ้มค่ามากจริงๆ นะคะ เราจึงขอเป็นอีกหนึ่งเสียงช่วยสนับสนุนให้คุณพ่อคุณแม่เล่นจ๊ะเอ๋กับลูกน้อย วันละไม่กี่นาทีก็สามารถช่วยพัฒนาสมองให้มีพัฒนาการอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แล้วยังสร้างสายใยครอบครัวได้เป็นอย่างดี และถ้าหากท่านสนใจสั่งซื้อหนังสือให้ลูกน้อยเพื่อเสริมสร้างทักษะและพัฒนาการที่ดี คลิก

วันนี้อย่าลืมหันไปเล่นจ๊ะเอ๋กับลูกรักกันนะคะ

ซื้อครบ 899.- ส่งฟรี

Tel. : 0847003219

Facebook : https://www.facebook.com/serazuonline/
Line@ : @serazu
Website: www.serazu.com
E-mail : cc@serazu.com