คนเป็นพ่อแม่ล้วนเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกเสมอ และ “
หนังสือนิทาน” ก็คือสิ่งดี ๆ ที่พ่อแม่บางคนมองข้ามไป หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าหนังสือนิทานที่มีเพียงภาพสวย ๆ ตัวหนังสือน้อยนิด จะมีประโยชน์ต่อลูกอย่างไร เรามาลองดู 5 เหตุผลที่ควรอ่านนิทานให้ลูกฟัง กันดีกว่า
สร้างสายสัมพันธ์ครอบครัว ในหนึ่งวันที่คนในครอบครัวกระจายตัวกันไปทำหน้าที่ของตัวเอง คงจะดีไม่น้อยที่มีช่วงเวลาหนึ่งที่ดึงคนในครอบครัวให้มาใช้เวลาร่วมกัน และกิจกรรมที่เหมาะสมที่สุดคงจะเป็นการอ่านนิทาน
ในบ้านที่มีลูกน้อย อุ้มลูกขึ้นนั่งบนตัก คนอื่น ๆ นั่งรุมล้อมกัน แม่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเซียนเล่านิทานเริ่มเปิดหน้าแรก เล่านิทานเลียนเสียงตามบทบาทในหนังสือ ดูน่าขบขัน พ่อเริ่มหัวเราะ ตามมาด้วยพี่ น้องน้อยที่แม้จะไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยก็หัวเราะตาม ช่างเป็นเวลาที่ดีที่สุดของวัน
สายสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของครอบครัวเริ่มก่อตัว สายสัมพันธ์นี้จะอยู่เหนือสถานที่และกาลเวลา เป็นเครื่องมือสำคัญในการเหนี่ยวรั้งไม่ให้ลูกน้อยออกนอกลู่นอกทางในอนาคต
ส่งเสริมให้ลูกรักการอ่าน “การอ่าน” เป็นหัวใจสำคัญของการใช้ชีวิต และนำพาชีวิตไปสู่ความสำเร็จ การปลูกฝังนิสัยรักการอ่านที่ควรทำตั้งแต่เด็กจึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ เริ่มที่อ่านหนังสือให้ลูกฟังบ่อย ๆ ตั้งแต่เล็ก โดยเฉพาะหนังสือนิทาน
แม้ในระยะแรกเขาจะไม่เข้าใจก็ตาม แต่เป็นโอกาสที่เขาจะทำความคุ้นเคยกับหนังสือ รู้ว่าการอ่านคืออะไร อ่านให้เขาฟังบ่อย ๆ เขาจะซึมซับว่าการทำสิ่งนี้คือสิ่งที่ดี และจะเรียกร้องให้พ่อแม่อ่านอยู่เสมอ
จนถึงวัยหนึ่งที่ลูกอยากอ่านเองแล้ว พ่อแม่ก็จะเปลี่ยนหน้าที่เป็นชี้แนะแทน จนกระทั่งเขาอ่านคล่องและอยากอ่านหนังสืออีกหลาย ๆ เล่ม เมื่อถึงวันนั้นคุณจะขอบคุณตัวเอง ที่สามารถทำให้ลูกกลายเป็นเด็กรักการอ่านได้
สอนลูกได้ง่าย ๆ ด้วยนิทาน ในหนังสือนิทานสำหรับเด็ก มักแฝงข้อคิดอย่างแยบยลหากแต่เข้าใจง่ายเสมอ ทำให้ไม่ต้องสอนลูกด้วยคำสั่งที่ดูยุ่งยาก เด็กจะเรียนรู้จากสิ่งที่พ่อแม่เล่า อย่างหนังสือนิทานภาพ “มอม่อนจัง ชูวว์” ที่สอนในเรื่องของการใช้ชีวิตร่วมกันกับคนอื่น
เสียง “ชูวว์” คือเสียงที่สั่งให้สิ่งต่าง ๆ เงียบลงได้เหมือนเป็นเวทมนต์ เด็กน้อยเรียนรู้ว่าจะใช้เสียงนี้เมื่อไร เช่น เมื่อมีใครนอนอยู่ ก็ห้ามส่งเสียงรบกวน ลูกได้เรียนรู้กติกาของสังคม ผ่านตัวหนังสือและรูปภาพที่พ่อแม่บรรยายให้ฟัง และจดจำนำไปใช้
เพิ่มพลังด้านภาษา จากการวิจัยพบว่า เด็กที่คุณพ่อคุณแม่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟังเป็นประจำ จะมีพัฒนาการด้านภาษาที่ดี หนังสือนิทานที่แม้จะมีภาพเสียส่วนใหญ่ พ่อแม่ชี้ไปที่ตัวอักษรอ่านอย่างชัดถ้อยชัดคำ ใส่น้ำเสียงอย่างมีอรรถรส พร้อมบรรยายภาพประกอบ อ่านบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ลูกน้อยจะจดจำว่าหน้านี้อ่านว่าอย่างไร ตัวละครนี้พูดว่าอะไร ส่งเสียงอย่างไร
และหากเป็น
หนังสือนิทานสองภาษาจะยิ่งดี เพราะปัจจุบันภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่สำคัญต่อการสื่อสาร ครูคนแรกอย่างพ่อแม่ ก็ควรส่งเสริมเรื่องนี้โดยการอ่านภาษาอังกฤษแบบง่าย ๆ ให้ลูกฟังบ่อย ๆ เขาก็จะค่อย ๆ จำไปเอง
แสดงความรักแก่ลูก
การอ่านนิทานก่อนนอนให้ลูกฟังภายใต้อ้อมกอด เล่าเรื่องอย่างค่อยเป็นค่อยไป ชี้ตัวละครกันอย่างสนุกสนาน พูดอีกนัยหนึ่งก็คือการอ่านไปกอดไป ลูกน้อยเพลิดเพลินจนหลับไปภายในอ้อมอก เป็นสิ่งที่อบอุ่นใจอย่างน่ามหัศจรรย์
นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ กล่าวไว้ในหนังสือนิทานภาพสำหรับเด็ก “
อุ่นอ้อมกอด” ว่า “อ้อมกอดเป็นกริยาที่มีอานุภาพมากที่สุด ในการทำให้เด็กเล็กรับรู้ว่าโลกปลอดภัย ไม่ต้องกลัว แม่อยู่กับลูกเสมอ อันจะเป็นแรงผลักสำคัญให้เด็กพัฒนาการไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและมั่นคง”
สำหรับเด็กแล้ว คงไม่โหยหาอะไรมากไปกว่าอ้อมกอดอุ่น ๆ อันหมายถึงความรักจากคนเป็นพ่อแม่ จึงเป็นเหตุผลที่พ่อแม่ต้องกอดลูกตั้งแต่เกิด อย่างสม่ำเสมอในเวลาที่เขาต้องการ “หากทำได้ อ้อมกอดของพ่อแม่จะมีคุณค่าตลอดกาลนาน”
นอกจากนี้หนังสือนิทานยังมีประโยชน์อีกนานัปการ ที่จะส่งเสริมให้ลูกน้อยของคุณเติบโตไปอย่างมีความสุขและเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ เริ่มต้นได้แล้ววันนี้ เพียงวันละไม่กี่นาที ทิ้งคำว่าไม่มีเวลาไป ถือว่าเป็นการลงทุนเพียงเล็กน้อย เพื่ออนาคตอันยิ่งใหญ่ของลูก ถ้าพร้อมแล้วคุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มหา
หนังสือนิทานดี ๆ สักเล่ม บรรจงอ่านอย่างตั้งใจ แล้ววันหนึ่งจะรู้ว่าผลที่ได้นั้นคุ้มค่าขนาดไหน
ดูตัวอย่างหนังสือนิทานสำหรับเด็ก>>>คลิ๊ก<<<