ขอบคุณสำนักพิมพ์ Thinkbeyondbook ที่ส่งหนังสือมาให้รีวิวครับ แอดเลยรีบอ่านภาพรวมต่างๆให้ด่วนๆเลย แต่ถ้าให้สรุปผมว่า ให้พวกเราไปอ่านกันเองดีกว่า
#ภาพรวมหนังสือ เป็นการเขียนเล่าเรื่องของ Charlie Tian ที่จบการศึกษาสายฟิสิกส์ และทำงานด้านเคเบิลใยแก้วแล้วไปลงทุนแล้วพลาดนี่แหละ เจอช่วง Dot Com ไป แล้วเค้าก็ศึกษาวิธีการลงทุนต่างๆมากมาย ดังนั้น ฟีลลิ่งของหนังสือเล่มนี้ เปรียบได้กับ คนที่อ่านหนังสือมาเล่าให้ฟังอีกครั้งว่า เค้าไปอ่านวิธีการลงทุนของใครมาบ้าง ได้ไอเดียอะไรมา
ดังนั้นสตอรี่ของการดำเนินเรื่องจึงไม่ใช่หลักการของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นสิ่งที่ผู้เขียนได้เรียนรู้จากนักลงทุนเก่งๆ GuruFocus เป็นเว็บไซต์ที่ผู้เขียนทำขึ้นและนำข้อมูลอ้างอิงมาลง ก็จะมีพูดถึงค่อนข้างบ่อยนะ ศัพท์เฉพาะพอมีบ้าง มีสูตรบ้าง แต่แอดเฉยๆ ถ้าให้พูดถึงเรื่องราวที่ชอบมี 2 เรื่องที่ขอหยิบมาเล่า
#เรื่องแรก ในช่วงเวลาที่เกิดฟองสบู่ มีนักลงทุนอยู่ 4 ประเภท
1. คนทั่วไป >> คนที่คิดว่า ตัวเองรู้ดีเกี่ยวกับตลาด และรวยได้
2. คนฉลาด >> คนที่ตระหนักว่า มีสิ่งผิดปกติ ก่อนเกิดวิกฤติ ถือหุ้นและกระโดดออกก่อนเกิดวิกฤติ
3. นักชอร์ต >> สายสวน แต่ชอร์ตไว้ช่วงขาขึ้น เจ็บอยู่ กลุ่มนี้ก็พอรู้ว่า จะเกิดวิกฤติ แต่จอห์น เมนาร์ด เคนส์ (นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดัง) กล่าวไว้ว่า
"ตลาดสามารถคงอยู่ในสภาพไร้เหตุผลได้ยาวนานกว่าที่ทั้งคุณและผมจะทานทนไหว" >> อมเลือดอยู่ 5555
4. ผู้ที่ถูกบีบให้ต้องซื้อ >> กลุ่มมืออาชีพ ที่ต้องเข้ามาซื้อขายทำกำไรระยะสั้น
คนที่รู้ว่ามีฟองสบู่ แล้วเดินออกไป รอกลับมาคือนักลงทุนผู้ชาญฉลาด แต่ชีวิตหลายๆคนไม่ได้เรียบง่าย ผู้บริหารกองทุนบางคนเจอทั้งเรื่องการตกรถที่ไม่ซื้อหุ้น Dot Com หรือช่วงที่เกิด Dot Com Crisis ก็เจอเรื่องที่ทำให้พอร์ต Drawdown หนักได้เช่นกัน และอาจผิดทางด้วย
#เรื่องที่สอง คือ บทที่ 8 พอร์ตการลงทุนเชิงรับ
- S&P500 ชนะ กิจการโดยรวมใน US แถมยังชนะ Active Fund กว่า 60% เรื่องนี้ไม่ค่อยแปลกใจ เราคุยกันบ่อยในเพจ
- แต่แอดชอบไอเดียตะกร้าหุ้น การหากิจการชั้นดี เค้ามีการยกตัวอย่าง
1) พอร์ตหุ้น 25 ตัวที่ทำกำไรสม่ำเสมอ 10 ปี + Undervalue >> ชนะ S&P500
2) หุ้น 25 ตัวที่ P/S ต่ำสุดในรอบ 10 ปี และ P/B ด้วย >> ชนะ S&P500
3) หุ้น 25 ตัวที่กูรู เลือกถือลงทุนมากที่สุด >> ชนะ S&P500
ใช่ครับ แอดชอบไอเดียหา Alpha นั่นเอง
ถึงแม้โดยรวมเนื้อหาที่ดูมาจะเป็นความรู้การลงทุนหุ้นรายตัวขั้นพื้นฐานอยู่แล้ว แต่การนำมากลั่นกรองว่าไปอ่านของใครมา แต่ละคนต่างกันยังไง ก็ถือว่า ได้รสชาติไปอีกแบบ รวมๆแล้วเนื้อหาไม่ยากเกินทำความเข้าใจ แต่อาจไม่ใช่หนังสือเล่มแรกที่ควรอ่านนะ
แอดมองว่า ถ้าเราเคยอ่านหลักการสาย VI มาบ้าง พอมาดูตรงนี้จะมีส่วนที่ซ้อนทับกันบ้าง และต่อยอดไอเดียได้ ถ้าสนใจลองถามสำนักพิมพ์เค้าดูนะครับ เดี๋ยวแอดแปะลิ้งไว้ให้ครับ ขอบคุณครับ #FunManager
**รีวิวนี้ แอดไม่ได้รับค่าตอบแทนใดๆนะครับ**
ที่มา : Fun Manager