หนังสือเล่มนี้ ค่อนข้างเน้นไปทางสายพื้นฐาน ซึ่งตัวหนังสือจะมองหาหุ้นที่น่าสนใจ กำลังอยู่ในช่วง glith(ให้นึกถึง S curve การที่บริษัทจะโตต่อได้ มักจะมีช่วงการถดถอยของวัฏจักร จุดตรงนี้เองที่ผู้เขียนมักจะมองหาหุ้น) การจะหาหุ้นพวกนี้ที่ยังเป็นบริษัทพื้นฐานดี super company + การใช้ค่า Price sale ratio (PSR) ในการวิเคราะห์ + การประเมินค่า Price research ratio (PRR) เพื่อดูว่าจังหวะในการเข้าไปถือหุ้นมันเหมาะสมมั้ย
ซึ่งตรงนี้อาจจะกลายเป็นหุ้น Super Stocks ให้กับเรา (ทำกำไรเป็นหลายเด้งในหลัก 5 ปี 10 ปี) เหตุใดทำไมถึงใช้ PSR มากกว่าค่า PE ในการประเมิน พร้อมทั้งเอาสถิติที่ผู้เขียนได้ทำการเก็บรวบรวมมาสรุปให้ . ส่วนตัว จุดที่ผมชอบในหนังสือจะมีอยู่ 2 ส่วนหลัก ๆ อย่างแรก คือ การวิเคราะห์ตัวพื้นฐาน - จุดแข็ง ข้อได้เปรียบของบริษัทมีอะไรบ้าง - Market share ที่บริษัทครอบครองอยู่ เทียบกับในอุตสาหกรรม บริษัทอื่นเป็นอย่างไร - มุมมองผู้บริหาร การวิเคราะห์ตัวผู้บริหารของบริษัท
ถัดมาเป็นเรื่องของ คำถามเวลาที่เราอาจจะไป CV บริษัท ข้อคำถามเหล่านี้แยกเป็นบทต่าง ๆ ทั้งการถามถึงตัวบริษัท การถามถึงการตลาดในแนวโน้มข้างหน้า คำถามที่เป็นเชิงแสดงวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร มีตัวอย่างคำถามอีกมากมาย แม้บางคนอาจไม่ได้ไป CV เราก็สามารถเอาคำถามพวกนี้ มาคิดวิเคราะห์ กับตัวธุรกิจ ว่ามันมีมุมมองอื่น หรือความได้เปรียบ ในการที่เราจะเลือกบริษัทนี้มั้ย อีกด้วย . .
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการอ่านหนังสือ เราควรจะมีทักษะ กระบวนการ Critical Thinking ในการวิเคราะห์ด้วย .. ทำไม อย่างไร เพราะอะไร แล้วถ้าเกิดไม่ใช้อย่างที่หนังสือว่า มันมีวิธีอื่นที่อาจจะได้ดีกว่านี้อีกมั้ย ฯลฯ ไม่ใช่การอ่าน หรือการได้รับความรู้ใด ๆ มาก็ตาม แล้วเราจะเชื่อทั้งหมดทุกสิ่ง เราต้องได้คิด วิเคราะห์ เพื่อให้ตกผลึกเป็นความรู้เรา
อย่างที่เคยโพสต์เขียนไว้ มันไม่มีจอกศักดิ์สิทธ์ใด ๆ ในการลงทุน เพราะจริง ๆ แล้ว จอกศักดิ์สิทธิ์นั้น อยู่ในตัวเราตั้งแต่แรก ตลาดหุ้นไม่มีอะไร 100% เราต้องคิดเผื่อด้วยเสมอ เก็บความรู้ให้มาก รู้ให้มันครอบคลุม แล้วเมื่อเรารู้หลายสิ่ง ตัวสิ่งที่ไม่ได้ใช้ออก จนหาสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ก็จงรู้ลึกในสิ่ง ๆ นั้น ทั้งนี้ก็ขอขอบพระคุณทางสำนักพิมพ์ Think beyond ที่ส่งหนังสือ มาให้เราได้รีวิว เพื่อเป็นประโยชน์กับนักลงทุน กันนะครับ
ที่มา : Stocks Library